"เปลี่ยนไอเดียให้เป็นธุรกิจจริง! เคล็ดลับจดทะเบียนบริษัทที่ใครก็ทำได้"
- Local Thai Tax and Accounting

- 3 พ.ย. 2567
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 13 ต.ค.

เพราะทุกการตัดสินใจทางบัญชีและภาษี คือก้าวสำคัญขององค์กรคุณ
การจดทะเบียนบริษัทเป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเริ่มธุรกิจอย่างเป็นทางการและถูกต้องตามกฎหมาย การจดทะเบียนบริษัทอย่างถูกต้องไม่เพียงแค่ช่วยให้ธุรกิจดูเป็นทางการ แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อการขยายธุรกิจในอนาคต มาดูกันว่าเทคนิคการจดทะเบียนบริษัทแบบมาตรฐานสากลมีอะไรบ้าง
1. การวางแผนธุรกิจและการเลือกโครงสร้างบริษัท
ก่อนจดทะเบียนบริษัท ควรเริ่มจากการวางแผนธุรกิจอย่างละเอียด อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง From Idea to Reality: A Step-by-Step Blueprint for Starting Your Business in Thailand และพิจารณาเลือกโครงสร้างบริษัทที่เหมาะสม โดยปกติโครงสร้างบริษัทมีหลากหลาย เช่น
🔹 บริษัทจำกัด (Limited Company)
ลักษณะทั่วไป:บริษัทจำกัดเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (Civil and Commercial Code – CCC) มาตรา 1096 ถึง 1273โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบกิจการเพื่อหากำไรและแบ่งผลกำไรให้แก่ผู้ถือหุ้นตามสัดส่วนของหุ้นที่ถืออยู่
คุณสมบัติหลัก:
มีผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 2 คนขึ้นไป
มีทุนจดทะเบียนแบ่งออกเป็นหุ้น (par value เท่ากันทุกหุ้น)
ความรับผิดของผู้ถือหุ้น จำกัดอยู่เพียงจำนวนเงินที่ยังชำระไม่ครบของหุ้นที่ถือ
ต้องมีการแต่งตั้ง กรรมการ (Director) เพื่อเป็นผู้บริหารและตัวแทนของบริษัท
ข้อดีของบริษัทจำกัด:✅ จำกัดความรับผิดของผู้ถือหุ้น — ปกป้องทรัพย์สินส่วนตัวจากความเสี่ยงทางธุรกิจ✅ เหมาะกับธุรกิจ SME และธุรกิจครอบครัวที่ต้องการระบบบริหารแบบชัดเจน✅ สามารถขยายกิจการหรือเพิ่มทุนได้ในอนาคต
ข้อพึงระวัง:
มีภาระการยื่นงบการเงินและภาษีที่ซับซ้อนมากกว่าธุรกิจบุคคลธรรมดา
ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดทางบัญชีและภาษีของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) และกรมสรรพากร
🔸 บริษัทมหาชนจำกัด (Public Limited Company)
ลักษณะทั่วไป:บริษัทมหาชนจำกัดจัดตั้งขึ้นตาม พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 (Public Limited Company Act B.E. 2535)เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการระดมทุนจากประชาชนทั่วไป หรือมีแผนที่จะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET / MAI)
คุณสมบัติหลัก:
มีผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 15 คนขึ้นไป
ต้องมีกรรมการอย่างน้อย 5 คน
หุ้นสามารถเสนอขายให้ประชาชนทั่วไปได้
ต้องเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ข้อดีของบริษัทมหาชน:✅ สามารถระดมทุนจากประชาชนทั่วไปได้✅ เสริมภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือและความโปร่งใส✅ เป็นโครงสร้างที่เหมาะกับธุรกิจขนาดใหญ่หรือกลุ่มทุนที่ต้องการขยายไปต่างประเทศ
ข้อจำกัด:
ขั้นตอนการจัดตั้งซับซ้อนและต้องมีระบบบริหารที่โปร่งใส
มีข้อกำหนดทางกฎหมายและการตรวจสอบที่เข้มงวดมากกว่า
📘 อ้างอิงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1096–1273(ว่าด้วยบริษัทจำกัด)
พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535(ว่าด้วยบริษัทมหาชนจำกัด)
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) — แนวทางและแบบฟอร์มการจดทะเบียน
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) — แนวทางสำหรับบริษัทมหาชน
✨ เคล็ดลับ
หากคุณเป็น ธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลาง (SMEs) ที่ต้องการบริหารความเสี่ยง บริษัทจำกัด (Limited Company) คือทางเลือกที่เหมาะสม
แต่หากคุณต้องการ ระดมทุนจากประชาชนและมุ่งสู่ตลาดทุน บริษัทมหาชนจำกัด (Public Limited Company) คือโครงสร้างที่ควรมุ่งสู่
บริษัทมหาชน: เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการเพิ่มทุนจากผู้ลงทุนจำนวนมาก และมุ่งสู่การเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
การเลือกโครงสร้างที่ถูกต้องตั้งแต่แรกจะช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและง่ายต่อการขยาย

2. การตรวจสอบชื่อบริษัท
การตั้งชื่อบริษัทต้องมีเอกลักษณ์และไม่ซ้ำกับชื่อของบริษัทอื่น สามารถตรวจสอบได้ที่เว็บ www.dbd.go.th ควรเลือกชื่อที่สื่อความหมายถึงธุรกิจของคุณ และตรวจสอบว่าชื่อที่เลือกไม่มีการซ้ำในระบบจดทะเบียน นอกจากนี้ ควรคำนึงถึงการใช้ชื่อที่เป็นสากลเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือและเป็นมืออาชีพ
3. การกำหนดวัตถุประสงค์บริษัท
การระบุวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าใจว่า บริษัทจะดำเนินธุรกิจด้านใดบ้าง และยังเป็นประโยชน์สำหรับการวางแผนธุรกิจระยะยาว การเขียนวัตถุประสงค์ควรสอดคล้องกับแนวทางการทำธุรกิจและกฎหมายท้องถิ่น

4. การจัดทำและลงนามในเอกสารจดทะเบียน
สำหรับการจดทะเบียนบริษัทในมาตรฐานสากล มักจะต้องมีเอกสารสำคัญหลายชุด เช่น
หนังสือบริคณห์สนธิ (Memorandum of Association): ระบุวัตถุประสงค์ของบริษัท โครงสร้างผู้ถือหุ้น และที่ตั้งของบริษัท
ข้อบังคับของบริษัท (Articles of Association): กำหนดกฎระเบียบและวิธีการดำเนินงานภายในบริษัท
หนังสือแต่งตั้งกรรมการ: ระบุชื่อกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งเพื่อบริหารงานของบริษัท
5. การขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษีและการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
หลังจากจดทะเบียนบริษัทเรียบร้อยแล้ว ควรขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษีกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติม www.rd.go.th และพิจารณาว่าธุรกิจของคุณจำเป็นต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ การมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีและการจดทะเบียน VAT เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่ช่วยเสริมความน่าเชื่อถือให้กับบริษัท

6. การจัดการด้านบัญชีและการรายงานทางการเงิน
การทำบัญชีเป็นส่วนสำคัญของการดำเนินธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย จึงควรเลือกใช้ระบบบัญชีที่ได้มาตรฐาน เช่น การใช้โปรแกรมบัญชีหรือจ้างนักบัญชีที่มีใบอนุญาต สามารถติดต่อ www.localthaitax.com นอกจากนี้ การทำบัญชีที่ถูกต้องและโปร่งใสยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุนอีกด้วย
7. การขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจเพิ่มเติม
ในบางธุรกิจอาจจำเป็นต้องขอใบอนุญาตเพิ่มเติม เช่น ธุรกิจนำเข้าส่งออก ธุรกิจบริการทางการเงิน หรือธุรกิจอาหาร การขอใบอนุญาตเป็นการทำให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างถูกต้องและไม่ขัดต่อกฎหมาย สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซด์กรมศุลกากร www.customs.go.th
8. การวางแผนการบริหารและกลยุทธ์ทางธุรกิจ
การจดทะเบียนบริษัทไม่ใช่แค่การตั้งธุรกิจให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ยังเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ ท่านอาจสนใจข้อมูลนี้ How to Plan Taxes Effectively for Small Businessesควรกำหนดเป้าหมาย วางแผนทางการเงิน และวิเคราะห์โอกาสและความเสี่ยง เพื่อให้ธุรกิจมีความยั่งยืนและพร้อมที่จะเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต
การจดทะเบียนบริษัทที่ได้มาตรฐานสากลจะช่วยให้ธุรกิจของคุณมีโครงสร้างที่แข็งแกร่ง มีความน่าเชื่อถือ และสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างมั่นคง

ทุกไอเดียมีโอกาสกลายเป็นธุรกิจที่เติบโตได้การจดทะเบียนบริษัทเป็นเพียงก้าวแรก แต่การวางแผนและการทำงานอย่างมีระบบจะช่วยให้ธุรกิจของคุณมั่นคงและยั่งยืนหากคุณต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมหรือแนวทางการเริ่มต้นธุรกิจอย่างมืออาชีพทีม Local Thai Tax พร้อมให้คำปรึกษาและช่วยคุณทุกขั้นตอน
📩 ติดต่อเราเพื่อปรึกษาเบื้องต้นฟรีวันนี้
กรมสรรพากร
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
กรมศุลกากร



ความคิดเห็น